วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรค และสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าว ถึงปัญหามิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงประชาชน ว่า ปัจจุบันมีสถิติที่ประชาชนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพออนไลน์หลอกลวงสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมากยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจภาครัฐออกมาตรการปราบปราม จับกุม แต่ก็ยังไม่หมดสิ้น ตนมองว่าต้องบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงานของรัฐ รวมถึงโอเปอเรเตอร์ภาคเอกชนที่ดูแลเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต เร่งดำเนินการกวาดล้างปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง เด็ดขาด เพื่อหยุดกระบวนการ การหลอกลวงให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หลายคนมีเงินเก็บเพียงก้อนสุดท้ายของชีวิตต้องสูญไปในพริบตาจนคิดสั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ และเห็นใจอย่างมาก
.
ทั้งนี้โดยเฉพาะ หลังจากที่รัฐบาลเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 ให้เงิน 10,000บาท กับผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ยิ่งมีมิจฉาชีพหลอกลวงพี่น้องประชาชนให้กดลิงก์ โหลดแอปพลิเคชัน ต่างๆมากมาย ซึ่งผู้สูงวัยมักรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ ตนจึงขอฝากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในเชิงรุก พร้อมทั้งปิดกั้นเว็บไซต์หรือลิงก์ต่างๆ ซึ่งทราบว่า กระทรวงดีอี มีศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) สายด่วน 1441 รับเรื่องร้องเรียน ภัยอาชญากรรมออนไลน์จากประชาชนที่ถูกหลอกลวง ขอให้ใช้ทุกช่องทางของรัฐบาลประชาสัมพันธ์เตือนภัยให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของพวกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออีก
.
“ขอให้ประชาชนคิดก่อนโอน หรือทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช็คให้แน่ใจว่า ไม่ถูกหลอก ที่สำคัญ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด อัปโหลดแพลตฟอร์มที่ถูกส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ ขอให้กระทรวง ดีอี ตำรวจไซเบอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกวาดล้าง ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ อย่างจริงจังเด็ดขาดและทำงานเชิงรุก เชื่อว่าหากมีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือมิจฉาชีพต่อเนื่อง จะช่วยลดจำนวนประชาชนที่ถูกหลอกได้ พร้อมกับเร่งหามาตรการป้องกัน เตือนภัยให้ประชาชนรู้เท่าทันมิจฉาชีพไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้“ นายธนกร กล่าว
.
ทั้งนี้โดยเฉพาะ หลังจากที่รัฐบาลเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 ให้เงิน 10,000บาท กับผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ยิ่งมีมิจฉาชีพหลอกลวงพี่น้องประชาชนให้กดลิงก์ โหลดแอปพลิเคชัน ต่างๆมากมาย ซึ่งผู้สูงวัยมักรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ ตนจึงขอฝากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในเชิงรุก พร้อมทั้งปิดกั้นเว็บไซต์หรือลิงก์ต่างๆ ซึ่งทราบว่า กระทรวงดีอี มีศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) สายด่วน 1441 รับเรื่องร้องเรียน ภัยอาชญากรรมออนไลน์จากประชาชนที่ถูกหลอกลวง ขอให้ใช้ทุกช่องทางของรัฐบาลประชาสัมพันธ์เตือนภัยให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของพวกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออีก
.
“ขอให้ประชาชนคิดก่อนโอน หรือทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช็คให้แน่ใจว่า ไม่ถูกหลอก ที่สำคัญ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด อัปโหลดแพลตฟอร์มที่ถูกส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ ขอให้กระทรวง ดีอี ตำรวจไซเบอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกวาดล้าง ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ อย่างจริงจังเด็ดขาดและทำงานเชิงรุก เชื่อว่าหากมีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือมิจฉาชีพต่อเนื่อง จะช่วยลดจำนวนประชาชนที่ถูกหลอกได้ พร้อมกับเร่งหามาตรการป้องกัน เตือนภัยให้ประชาชนรู้เท่าทันมิจฉาชีพไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้“ นายธนกร กล่าว