“นายเจือ ราชสีห์” อดีตประธาน กมธ.คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ชี้รายงานองค์การอนามัยโลก สถิติไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอันดับ 1 ของอาเซียน อันดับ 9 ของโลก สาเหตุหลักเกิดจากความประมาทของคนขับรถ (โชเฟอร์) วอนรัฐบาลถอดบทเรียนเร่งแก้ปัญหา/หวั่นเกิดเหตุซ้ำโศกนาฏกรรมอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา
.
นายเจือ ราชสีห์ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร วอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูรายงานองค์การอนามัยโลก (WHO) ประเทศไทยครองสถิติเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอยู่ในอันดับ 9 ของโลกแม้มีกฎหมายจราจรที่อยู่ใน “ระดับดี“ แสดงให้เห็นว่า แนวทางการแก้ปัญหาโดยการเพิ่มหรือแก้กฎหมายจราจรไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุดสำหรับประเทศไทย เพราะสาเหตุหลักเกิดจาก “คนขับรถ(โชเฟอร์)” ล่าสุด(แต่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย)อุบัติเหตุที่ถูกเรียกว่าโศกนาฏกรรม กรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา รักษาการ ผบ.ตร. แถลงข่าวว่า “คนขับได้ยินเสียงผิดปกติแต่ไม่หยุดรถตรวจสอบ” จนนำมาซึ่งความสูญเสียมหาศาล สะท้อนว่าสถานการณ์อุบัติเหตุของประเทศไทยในปัจจุบัน ปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลต้องทำอย่างจริงจังและเร่งด่วนเพื่อการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว คือ (1)การสร้างจิตสำนึกของคนขับรถ ควบคู่กับ(2)การบังคับใช้กฎหมายจราจรที่มีอยู่อย่างเข้มงวด ซึ่งทั้งสองเรื่องสำคัญพอกัน โดยการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ต่อกรณีการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ชี้ชัดถึงปัจจัยหลักอันก่อให้เกิดอบุติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทย คือ “คนขับรถ” เช่น การดื่มสุราแล้วมาขับรถ การขับรถติดต่อกันหลายชั่วโมงแล้วไม่พักโดยเฉพาะคนขับรถโดยสารสาธารณะ ปัจจัยรองลงมา คือ คนขับรถไม่ตรวจสอบสภาพรถให้สมบูรณ์ แต่กลับนำมาใช้บนทางถนน เป็นต้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งถอดบทเรียนและกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน
.
“ผมในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดกิจกรรมอบรมใบอนุญาตขับรถให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 – 2565 ภายใต้โครงการ “โครงการขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจขับขี่” ซึ่งจัดมาแล้ว 25 รุ่น ตั้งแต่เป็น สส.และประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร มีผู้ผ่านการอบรมตามโครงการฯ มากกว่า 3,500 คน โดยหวังว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและการสูญเสียชีวิตของผู้ใช้รถใช้ถนนและสร้างความสูญเสียต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย