“อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ยก 5 ข้อสำคัญ “พรรครวมไทยสร้างชาติ“ ยื่นแก้ไขร่างกฎหมายแข่งขันทางการค้า ต้านการทุ่มตลาดจากต่างประเทศแก้ปัญหาสินค้าราคา ลดการผูกขาดทางการค้า เผยวิสัยทัศน์ “เอกนัฏ” เร่งปฏิรูปอุตสาหกรรม ชัดเจน ตรงจุด ปกป้องผู้ประกอบคนไทย
.
วันที่ 13 กันยายน 2567 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีว่า
.
ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอกล่าวถึงประเด็นเรื่องความเดือดร้อนของผู้ประกอบการไทย จากการทุ่มตลาดจากผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ในรูปแบบ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เข้ามาขายสินค้า ทุ่มตลาด ขายตัดราคา ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยของไทย ทั้งผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) และผู้ประกอบการค้าปลีก ที่ต้องแข่งขันเรื่องราคากับผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างประเทศที่มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์
.
โดยวัตถุประสงค์ ในการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ เล็งเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการปกป้องผู้ประกอบการชาวไทย และฝากไปยังคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ หรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มาช่วยกันดูแลหน่วยงานอิสระ คือคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) โดยกฎหมายฉบับดังกล่าว ให้มีการแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้หน่วยงานได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
.
โดยร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. … เป็นการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอนั้นจะมีการแก้ไขใน 5 ประเด็น ได้แก่
.
ประเด็นที่ 1 การขยายขอบอำนาจของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ให้ครอบคลุม การพิจารณาถึงกรณีที่ผู้ประกอบกิจการที่มีสถานประกอบการในต่างประเทศหรืออยู่นอกราชอาณาจักร จากเดิมที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ามีอำนาจเฉพาะผู้ประกอบการในประเทศเท่านั้น เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทย ปกป้องสิทธิของพี่น้องชาวไทย เนื่องด้วย กฎหมายฉบับเดิมนั้นไม่ครอบคลุมผู้ประกอบการหรือแพลตฟอร์มต่างประเทศ การแก้กฎหมายฉบับนี้ จะทําให้ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการแพลตฟอร์มหรือผู้ประกอบการที่มาทุ่มตลาด ขายตัดราคา ที่ตั้งอยู่นอกราชอาณาจักร
.
โดยกฎหมายฉบับนี้จะชี้ชัดให้ผู้ประกอบการต่างประเทศนั้น ต้องอยู่ภายในข้อบังคับและกฎเกณฑ์ หากมีการกระทำผิดหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้ามีหลักฐานถึงการกระทำผิดในประเทศไทย จะได้รับโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา และให้อํานาจของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สอบสวนดําเนินคดีคู่ขนานไปกับหน่วยงานอิสระอื่น ๆ ที่มีอํานาจหน้าที่โดยตรง ซึ่งในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ ได้เริ่มมีผลการบังคับใช้กฎหมายกันแล้ว
.
ประเด็นที่ 2 จากกรณีการควบรวมบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม 2 รายในประเทศเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าไม่มีอำนาจในการกำกับ ดูแล และวินิจฉัย เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะให้อำนาจ กสทช. เป็นผู้กำกับ ดูแลและวินิจฉัย
.
การแก้กฎหมายฉบับนี้ได้เพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าในการกำกับดูแล ทำงานคู่ขนานไปกับหน่วยงานที่มีอำนาจกับคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าสามารถพิจารณาได้ในทุกกรณี แม้จะมีหน่วยงานเฉพาะพิจารณาก็ตาม โดยไม่ตัดอำนาจหน่วยงานอื่น เพื่อป้องกันพี่น้องประชาชนจากปัญหาการผูกขาดทางการค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
.
ประเด็นที่ 3 พิจารณาแก้ไขกฎหมายให้เผยแพร่คำวินิจฉัยฉบับเต็มของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จากเดิมไม่มีการเผยแพร่ หรือเข้าถึงได้อย่างยากลำบาก โดยมีเหตุผลว่าในการปกป้องข้อมูลทางการค้าของผู้ประกอบกิจการ การแก้กฎหมายฉบับนี้จะต้องมีการเผยแพร่ฉบับเต็ม และปิดเฉพาะข้อมูลทางการค้าที่เป็นข้อมูลลับเท่านั้น
.
การให้เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้านี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักวิชาการ สื่อมวลชน ประชาชน และองค์กรนอกภาครัฐ ต่างๆ สามารถตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้ เพิ่มความโปร่งใสให้แก่หน่วยงาน และรักษาสิทธิของพี่น้องประชาชน
.
ประเด็นที่ 4 ขยายอายุความจากเดิม 1 ปี เป็น 3 ปี ในการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในการทุ่มตลาด หรือการแข่งขันทางการค้า เนื่องจากในกรณีของการวินิจฉัย สั่งการและดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางการค้านั้นจำเป็นต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด รวมทั้งพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และใช้ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ การขยายระยะเวลาของอายุความจะทำให้การพิจารณาวินิจฉัยกรณีเกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางการค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
ประเด็นที่ 5 การแก้กฎหมายฉบับนี้เพื่อให้ประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กรรมการการแข่งขันทางการค้า และเลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นการเพิ่มการตรวจสอบและส่งผลให้เกิดความโปร่งใสในการวินิจฉัยคดีและข้อพิพาทมากยิ่งขึ้น
.
ขอฝากไปยังคณะรัฐมนตรี โดยมีเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นกระทรวงที่มีหน้าที่กำกับ กขค. โดยตรง รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำกับดูแลในมาตรฐานอุตสาหกรรม และกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินนโยบายเพื่อปกป้องผู้ประกอบการชาวไทย รวมถึงผลักดันการแก้กฎหมายฉบับที่กล่าวถึงข้างต้นโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทุ่มตลาด และการบิดเบือนกลไกตลาด
.
สุดท้ายนี้ตนขอชื่นชมในการชี้แจง รวมถึงการแสดงวิสัยทัศน์ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ชัดเจน และเชื่อได้ว่าจะสามารถแก้ปัญหาอุตสาหกรรมของไทยได้อย่างตรงจุด
.
ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมของไทยพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก การปกป้องผู้ประกอบการของไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก(SME) จากการทุ่มตลาด หรือบิดเบือนกลไกทางการตลาด และรวมไปถึงการเอาจริงเอาจังกับการจัดการปัญหากากพิษจากอุตสาหกรรม
