วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ เดินทางเข้ากระทรวงอุตสาหกรรมเป็นวันแรก เพื่อเตรียมการทำงาน แลกเปลี่ยนมุมมองกับคณะผู้บริหารระดับสูง โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นำเสนอภาพรวมการดำเนินงาน พร้อมแนะนำผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม
.
โดยนายเอกนัฏกล่าวถึง “การปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย (Industrial Reform)“ เพื่อรับโอกาสใหม่ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโลกใน 3 พันธกิจสำคัญเร่งด่วน
.
1. จัดการกากอุตสาหกรรมตกค้างทั้งระบบอย่างเข้มงวด
.
2. ปกป้องอุตสาหกรรมไทยจากการทุ่มตลาด : ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย ที่รับผลกระทบจากการทะลักเข้าของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และยกระดับขีดความสามารถ SME ไทย
.
3. สร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สร้าง new S-Curve กับประเทศ ด้วยสินค้าเกษตรเทคโนโลยีสูง พลาสติกชีวภาพ โอลีโอเคมี น้ำมันเชื้อเพลิง อุตสาหกรรมยานยนต์EV ชิพเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
.
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมที่จะรื้อปรับปรุง กฎหมาย กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมผสานความร่วมมือกับภาคประชาชน เอกชน ท้องถิ่น และกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการงานให้สำเร็จตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่ชัดเจน
.
รวมถึงการจัดตั้ง “กองทุนเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม” แบบครบวงจร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย อัพสกิลผลิตแรงงานคุณภาพสูง ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยี บริหารจัดการค่าจับปรับด้านสิ่งแวดล้อมแบบไม่ต้องพึ่งพางบกลาง
.
ในการนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้บันทึกคติเตือนใจในการทำงานในตำแหน่ง ความว่า
.
“11 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 8:49 น. วันแรกที่เข้ากระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะรัฐมนตรี
.
ผมมาพร้อมกับเป้าหมาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย” เพื่อรับโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลก
.
ผมจะต่อสู้กับปัญหาขยะพิษ ที่ทำร้ายชีวิตประชาชน ไม่อ่อนข้อให้ผลประโยชน์ ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพล เดินหน้า เร่งคืนนํ้าที่ที่สะอาด และอากาศที่บริสุทธิ์ให้คนไทย
.
ผมจะปกป้อง ธุรกิจอุตสาหกรรมไทย ที่ถูกเอาเปรียบด้วยการบิดเบือนกลไกทางการค้า แก้กติกา และส่งเสริมให้ธุรกิจเล็ก ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม
.
ผมจะสร้างความร่วมมือ สร้างพันธมิตร มาช่วยกันสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบ ให้ทันกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทันสมัย สะดวก โปร่งใส
.
จะทำทันที ทำทุกวินาที ไม่ยอมจนกว่าจะทำให้สำเร็จ”
.
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
.
หลังจากประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแล้วเสร็จ นายเอกนัฏ และคณะ ได้ออกเดินทางทันที เพื่อสำรวจพื้นที่ที่มีสารเคมีรั่วไหลใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ตามข้อร้องเรียนของประชาชน
.
ทั้งนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และสส.บัญชีรายชื่อ, นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ, จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3, นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี เขต 4, นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1, นายสันต์ แซ่ตั้ง สส.ชุมพร เขต 2, นายชุมพล จุลใส สส.ชุมพร เขต 3, นางสาวกานสินี โอภาสรังสรรค์ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 1, นายพิพิธ รัตนรักษ์ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 2, นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมแสดงความยินดีในโอกาสนี้ด้วย