“ปรเมษฐ์ จินา” สส.สุราษฎร์ธานี พรรครวมไทยสร้าง ขอไทยเร่งร่วมมือกับสหภาพยุโรป เปิดประตูการค้า-แรงงาน ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค
.
วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ดร.ปรเมษฐ์ จินา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุราษฎร์ธานี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่ง ในที่ประชุมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ว่า
.
ประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีกรอบความตกลงฯ นี้โดยรวดเร็ว ซึ่งกรอบความตกลงฯ จะมีความร่วมมือในหลากหลายมิติ เช่น การค้า การลงทุน และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
.
ตนมีความเห็นว่าสหภาพยุโรปเป็นกลุ่มประเทศที่มีความเข้มแข็งเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งรัฐสมาชิกหรือประเทศสมาชิกยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการรวมกลุ่ม
.
นอกจากการให้ความเห็นชอบร่างกรอบความตกลงฯ นี้ ตนอยากให้ทั้งรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศในฐานะหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพต้องวางแผนถึงขั้นตอนต่อไปในการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ
.
โดยส่วนตัวมีข้อเสนอ ให้กระทรวงการต่างประเทศเชิญหน่วยงานของไทยเองที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และคณะทูตของประเทศในสหภาพยุโรปมาหารือร่วมกันในด้านต่าง ๆ ต่อไป
.
ตนขอเสนอให้มีการหารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประเด็นแรก การแสวงหาโอกาสในการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปยังสหภาพยุโรป
.
ประเด็นที่สอง ในเรื่องของความต้องการแรงงานของสหภาพยุโรปเป็นจำนวนมาก กระทรวงแรงงานไทยจะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้างในด้านการฝึกทักษะ การอบรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพพนักงานขับรถ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น
.
ประเด็นต่อมาคือ การหารือถึงการเปิด Campus หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า “วิทยาเขต” ของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ จุดนี้นอกจากจะเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาในประเทศแล้ว ยังจะเป็นการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาในภูมิภาคอีกด้วย
.
ทั้งนี้ในการลงมติในร่างกรอบความตกลงฯ ฉบับนี้ขอให้ยึดหลักการผลประโยชน์ต่างตอบแทนทั้งจากสองฝ่ายเป็นหลัก ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์จากฝ่ายอื่นฝ่ายเดียว