จากกรณีข่าวที่มีการใช้สารไซยาไนด์ก่อเหตุต่าง ๆจนทำให้มีผู้เสียชีวิต เช่น คดีแอมไซยาไนด์ คดีชาวเวียดนาม 6 ศพ และอื่น ๆ โดยสารดังกล่าวเป็นสารที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และใช้ปริมาณน้อยก็สามารถทำอันตรายถึงแก่ชีวิตได้นั้น
.
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีความห่วงใยและตระหนักถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสารไซยาไนด์ประกอบพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่สามารถหามาได้โดยไม่ยาก จึงมีนโยบายที่จะให้กระทรวงอุตสาหกรรมแก้ไขกฎหมายควบคุมสารไซยาไนด์
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ที่ผ่านมา จึงได้เชิญ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานสืบสวนสอบสวน รวมถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งได้ทราบรายละเอียดของคดีต่าง ๆ โดยเฉพาะพยานหลักฐานเกี่ยวกับสารไซยาไนด์ที่ใช้ในการก่อเหตุต่าง ๆ มาให้ข้อมูลทั้งในแง่ของข้อมูลทางคดี ข้อมูลวัตถุพยาน และข้อมูลทางกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการในการขับเคลื่อนการแก้ไขกฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในระยะต้นจะมีการเสนอขอให้แก้ไขกฎหมายควบคุมสารไซยาไนด์โดยเข้มงวด และมีบทลงโทษที่รุนแรงหากนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
.
“ในวันนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้เชิญมาพบเพื่อรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่มีการใช้สารไซยาไนด์ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขกฎหมายซึ่งในส่วนนี้ก็ได้เตรียมข้อมูลนำเรียนท่านเรียบร้อยแล้วโดยท่านมีนโยบายที่จะแก้ไข กฎหมายเพื่อควบคุมสารดังกล่าวซึ่งจะทำให้เกิดผลดีในแง่ของการตัดช่องทางการซื้อขายไม่ให้สามารถกระทำได้โดยง่าย โดยหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของการยื่นขอแก้ไขกฎหมายตามกระบวนการต่อไป” พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ กล่าว
.
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีความห่วงใยและตระหนักถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสารไซยาไนด์ประกอบพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่สามารถหามาได้โดยไม่ยาก จึงมีนโยบายที่จะให้กระทรวงอุตสาหกรรมแก้ไขกฎหมายควบคุมสารไซยาไนด์
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ที่ผ่านมา จึงได้เชิญ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานสืบสวนสอบสวน รวมถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งได้ทราบรายละเอียดของคดีต่าง ๆ โดยเฉพาะพยานหลักฐานเกี่ยวกับสารไซยาไนด์ที่ใช้ในการก่อเหตุต่าง ๆ มาให้ข้อมูลทั้งในแง่ของข้อมูลทางคดี ข้อมูลวัตถุพยาน และข้อมูลทางกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการในการขับเคลื่อนการแก้ไขกฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในระยะต้นจะมีการเสนอขอให้แก้ไขกฎหมายควบคุมสารไซยาไนด์โดยเข้มงวด และมีบทลงโทษที่รุนแรงหากนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
.
“ในวันนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้เชิญมาพบเพื่อรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่มีการใช้สารไซยาไนด์ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขกฎหมายซึ่งในส่วนนี้ก็ได้เตรียมข้อมูลนำเรียนท่านเรียบร้อยแล้วโดยท่านมีนโยบายที่จะแก้ไข กฎหมายเพื่อควบคุมสารดังกล่าวซึ่งจะทำให้เกิดผลดีในแง่ของการตัดช่องทางการซื้อขายไม่ให้สามารถกระทำได้โดยง่าย โดยหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของการยื่นขอแก้ไขกฎหมายตามกระบวนการต่อไป” พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ กล่าว