พรรครวมไทยสร้างชาติ ยันสุดตัว ไม่นิรโทษ ม.112
.
พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ “ลอรี่” รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะโฆษกคณะกรรมมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ได้เปิดเผย ผลการศึกษาของคณะกมธ.นิรโทษกรรม ตลอดการประชุม 19 สัปดาห์ ว่า
.
ตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 3 ท่าน มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ที่จะไม่เห็นชอบให้มีการรวมนิรโทษกรรมคดี ม.112 และ ม.110 ได้แก่ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส. ชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ , นายเจือ ราชสีห์ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกคณะกรรมาธิการ
.
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ กล่าวสรุปว่า ตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เห็นด้วยที่จะรวมคดีอ่อนไหวทางการเมืองอย่าง ม.112 , ม.110 ในการนิรโทษกรรม ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้
.
1. ปัญหาเชิงคุณภาพ ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตั้งต้น ที่จะต้องการสร้างความปรองดองสังคม เพราะอาจเป็นการสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่
2. ปัญหาเชิงปริมาณ ในแง่ของจำนวนคดี ม.112 คิดเป็นจำนวนน้อย ไม่ถึง 2% เทียบกับคดีทั้งหมด แต่อาจทำให้การนิรโทษกรรมคดีที่เหลือ 98% มีปัญหาได้
3. กระทำผิดซ้ำ มีโอกาสในการกระทำผิดซ้ำสูง หลังการได้รับนิรโทษกรรม ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมถอย
4. คดีลักษณะเฉพาะ คดี ม.112 , 110 เป็นคดีลักษณะเฉพาะพิเศษ ไม่สามารถแก้โดยนิรโทษกรรมได้ คล้ายกับความผิดต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คดี ม.135 ควรให้เป็นการพระราชทานอภัยโทษเป็นรายกรณีไป
.
คณะกรรมมาธิการฯ ศึกษาแนวทางทางการตราพรบ.นิรโทษกรรม คดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ได้มีมติสุดท้าย ใช้กระบวนการ “ผสมผสาน” นิรโทษกรรมโดยกรอบกฎหมาย ร่วมกับการมีคณะกรรมการ คอยวินิจฉัยและอุทธรณ์
.
ความเห็นคณะ กมธ.นิรโทษกรรม แบ่งออกเป็น 3 แนวทาง โดยเป็นการบันทึกความเห็นอย่างมีอิสระ ไม่มีการโหวต
.
ผลความเห็นล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 67 จากคณะ กมธ.นิรโทษกรรม 36 คน ไม่รวมประธาน 1 ท่าน และคณะกรรมาธิการถอนตัว 1 เหลือ จำนวน 34 เสียง ดังนี้
.
– ไม่นิรโทษ 112 จำนวน 13 เสียง
– นิรโทษ 112 จำนวน 3 เสียง
– นิรโทษ 112 โดยห้ามกระทำผิดซ้ำ จำนวน 12 เสียง
.
“โดยผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ เตรียมยื่นให้ประธานสภาฯในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาบรรจุเข้าในวาระการประชุมสภาในลำดับต่อไป ฝากถึงพี่น้องคนไทยที่รักสถาบัน และเชื่อมั่นในความถูกต้อง ติดตามเรื่องนี้ไปด้วยกันอย่างใกล้ชิด” นายพงศ์พล กล่าวทิ้งท้าย