‘อนุชา บูรพชัยศรี’ สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ แนะรัฐบาลควร ใช้ ‘เป๋าตัง’ จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ มีข้อดีเพียบ ประชาชนไม่ต้องเรียนรู้การใช้งาน ลดภาระรัฐเร่งสร้างความเข้าใจ ไม่ต้องห่วงมิจฉาชีพจะใช้หลอกประชาชน
.
วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายอนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. ว่า
.
สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของระบบการลงทะเบียนซึ่งชัดเจนแล้วว่าจะมีการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งมีการพัฒนาตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และส่วนของระบบการทำธุรกรรมหรือระบบชำระเงิน แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลในเรื่องของระบบชำระเงินว่า จะต้องดาวน์โหลดอีกแอปพลิเคชันหนึ่งหรือไม่ หรือใช้แอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งชัดเจนแล้วว่าจะต้องใช้ในการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน
.
ทั้งนี้ มีพี่น้องประชาชนสอบถามมายังพรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนมาก ถึงความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในการทำธุรกรรมหรือระบบชำระเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องในการรับสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐบาล และยังมีระบบที่เสถียรปราศจากไวรัสต่าง ๆ ที่และมีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนระดมทรัพยากรในการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการใช้งาน อีกทั้งในตัวเลขดังกล่าวยังเป็นตัวเลขที่คุณตาคุณยายเดินทางไปยังสถาบันการเงินแต่ละสาขา เพื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียน จนกระทั่งสามารถใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังได้
.
นอกจากนี้ แอปพลิเคชันเป๋าตังยังผ่านประสบการณ์การใช้จ่ายเงินของภาครัฐมาแล้วหลายโครงการ อาทิ โครงการคนละครึ่งที่มีถึง 5 เฟส, โครงการเราเที่ยวด้วยกัน, โครงการเราชนะ และ โครงการ ม.33 เรารักกัน มีการใช้จ่ายจริงจากประชาชนเกือบ 27 ล้านคน มีการทำธุรกรรมโอนจ่ายและรับโอนมากกว่า 234,500 ล้านบาท เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีส่วนต่อขยายหรือทำให้แอปพลิเคชันเป๋าตังสามารถเชื่อมต่อกับธนาคารอื่น ๆ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรในการประชาสัมพันธ์ การฝึกใช้ของพี่น้องประชาชน และยังลดโอกาสของมิจฉาชีพทั้งหลายที่จะใช้โอกาสนี้หลอกลวงพี่น้องประชาชนได้อีกด้วย