“ธนกร” หนุน กมธ.นิรโทษทำถูกแล้ว แยกคนผิด ม.112 ออกให้ชัด ยัน จุดยืน รธน.ยกสถาบันไว้เหนือการเมือง เป็น ความมั่นคงของชาติ เห็นด้วย คัดคดีไม่รุนแรง-มีเหตุจูงใจการเมือง ปี 48-ปัจจุบัน พร้อมฝาก พิจารณารายคดีอย่างรอบคอบ เป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่เอื้อแค่บางกลุ่ม
วันที่ 3 พ.ค. 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานที่มติเห็นชอบ แยกเรื่องคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ออกจากการนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างที่ตนเคยย้ำหลายครั้ง ว่าตามรัฐธรรมนูญมีกฎหมายปกป้องพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์เพราะถือเป็นความมั่นคงแห่งรัฐทุกคนต่างทราบดีว่าเป็นความมั่นคงของประเทศ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ เหนือการเมือง จึงเป็นเหตุไม่สมควรที่จะเหมารวมและได้รับการยกโทษและนิรโทษกรรม
โดยส่วนตัว เห็นด้วยที่กรรมาธิการ ตีกรอบจำกัดความให้คดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งต้องเป็นคดีที่ไม่รุนแรง โดยแยกมาตรา 112 ออก ทั้งนี้ก็ฝากถึงคณะกรรมาธิการฯ ใช้ช่วงระยะเวลาเกือบ 3 เดือนนี้ พิจารณาคดีความที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองว่ามีลักษณะแบบใดบ้างที่จะได้รับนิรโทษกรรม ขอให้พิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่เอื้อบุคคลใด หรือ บางกลุ่มเป็นการเฉพาะ ต้องให้เกิดความยุติธรรม เท่าเทียมกับทุกฝ่ายการเมือง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการรีเซ็ทการเมืองสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดการยอมรับของทุกฝ่ายและเดินหน้าร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป