Skip to content
Home » ปรเมษฐ์ จินา สนับสนุนความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและศรีลังกา

ปรเมษฐ์ จินา สนับสนุนความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและศรีลังกา

ปรเมษฐ์ จินา สส.รวมไทยสร้างชาติ อภิปรายสนับสนุนความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและศรีลังกา ย้ำต้องทำอย่างรวดเร็วเป็นโอกาสดีของประเทศไทยจะได้ขยายฐานการค้ากับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ แนะต้องดึงทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา นายปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฎร์ธานี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้อภิปรายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในเรื่องความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและศรีลังกาว่า ที่ผ่านมาแต่ละประเทศมักเอาสิ่งที่ได้เปรียบมาทำเป็นข้อตกลง แต่ที่ผ่านมาไทยกับศรีลังกาประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากนั้นก็มีการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันก็ประชุมจนถึงครั้งที่ 9 กระทั่งนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนประเทศศรีลังกาเมื่อวันที่ 3- 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็มีความก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งตนอยากเห็นการลงนามในข้อตกลงนี้อย่างเร็วเพราะรอไม่ได้การค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นโอกาสดีประเทศไทยจะได้ขยายฐานตลาดกับประเทศศรีลังกาและในภูมิภาคเอเชียใต้

ดร.ปรเมษฐ์ กล่าวว่า ขอฝากกระทรวงพาณิชย์เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมต้องให้กระทรวงเหล่านี้มีส่วนร่วมพิจารณาด้วย และมองไปข้างหน้า เช่น วันนี้เราจะทำโครงการแลนด์บริดจ์ก็พบว่าท่าเรือโคลัมโบเป็นท่าเรือที่ใหญ่ มีเรือเข้าไปใช้บริการมากก็เข้าไปจับมือแบบหลวมๆไว้ก่อน เพื่อที่จะเดินหน้าแล้วเชื่อมต่อกับโครงการแลนด์บริดจ์ของไทย และอยากจะฝากในเรื่องการต่อยอด เช่น น้ำมันปาล์ม มะพร้าว อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์จากชา เรามาจับมือร่วมกันได้หรือไม่ มาร่วมมือกันขยายตลาดไปขายกับประเทศอื่นเป็นการสร้างพลังต่อรอง

สำหรับ สินค้าที่ไทยและศรีลังกาไม่มีเช่น ปุ๋ยเคมี น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และข้าวบาเล่ย์ เรามาร่วมมือกันรวบรวมกันซื้อแล้วมาแบ่งกันจะได้ราคาที่ต่อรองได้ ตนอยากให้มองไปข้างหน้าแบบนี้ด้วย นอกจากนั้นมีสินค้าหลายตัวที่เราได้ดุลการค้ากับศรีลังกา เช่น น้ำตาล แร่ อาหาร เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักร เราต้องมีการเพิ่มยอดในการส่งออกให้มากขึ้น

“ประเทศศรีลังกาไม่ใช่คู่แข่งต้องพยายามจะทำแบบมิตรภาพคนครอบครัวเดียวกัน ทำความตกลงในเรื่องของการค้าเสรีแล้วก็เดินหน้าได้ และฝากทางผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาอย่าลืมดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำงานด้วย ผมจึงขอสนับสนุนและเห็นด้วยกับข้อตกลงในครั้งนี้”ดร.ปรเมษฐ์กล่าว