“อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ผู้แทนพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 44 ที่กรุงจาการ์ตา เผยไทยได้รับคำชื่นชมจากชาติสมาชิก 10 ประเทศในหลายด้าน ย้ำจะร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการต่อต้านคอร์รัปชั่นร่วมกัน
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ใหสัมภาษณ์ถึงการร่วมคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ครั้งที่ 44 ที่กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 5-11 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า การประชุมครั้งนี้มีนายวันหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเป็นหัวหน้าคณะเข้าร่วมประชุมกับชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี ประเทศไทยได้รับความชื่นชมในหลายด้าน โดยเฉพาะการเสนอความคิดเห็นการติดตามการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชาติสมาชิกอาเซียน ซึ่งผู้แทนจากประเทศไทยอยู่ร่วมประชุมจนจบ เป็นที่พอใจของชาติเจ้าภาพที่จัดประชุมเป็นอย่างมาก
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า ตนในฐานะผู้แทนของพรรครวมไทยสร้างชาติและในฐานะกรรมการบริหารหน่วยประจำชาติไทยในรัฐสภาอาเซียน และเป็นกรรมาธิการเศรษฐกิจได้เสนอแนวทางเพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันในชาติสมาชิกอาเซียน และมีข้อสรุปเพื่อให้ทางที่ประชุมรัฐสภาอาเซียนได้ขับเคลื่อนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล พยายามผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตในอาเซียน รวมถึงเศรษฐกิจสีเขียว และมีความเห็นร่วมกันว่า ต้องต่อต้านการคอร์รัปชั่นถือเป็นสิ่งสำคัญทำให้เศรษฐกิจมีความเติบโต เนื่องจากการทำการค้าการลงทุนในชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศที่มีชายแดนติดกัน ถ้าร่วมกันต่อต้านการคอร์รัปชั่นได้ การส่งออกการนำเข้าสินค้ากระบวนการค้าการลงทุนการส่งเสริมการลงทุนถ้าก็จะเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการต่อต้านคอร์รัปชั่นทั้ง 3 หัวข้อได้ทำเป็นร่างข้อตกลงในกลุ่มของชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศเพื่อผลักดันให้เกิดผลสำเร็จในวันข้างหน้า
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า ได้มีการติดตามข้อตกลงเดิมที่ชาติสมาชิกได้เคยทำร่วมกันในการประชุมที่ประเทศกัมพูชาในปีที่ผ่านมา ตนในฐานะกรรมาธิการเศรษฐกิจได้มาติดตามผลสำเร็จ โดยจะร่วมกันเสนอให้ทางรัฐสภาได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญร่วมเพื่อผลักดันข้อตกลงในด้านต่าง ๆทั้งด้านการเมือง ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านกิจการสภา เพื่อขับเคลื่อนผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
สำหรับการประชุมฯในครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศสปป.ลาว เป็นเจ้าภาพ ในปี 2562 ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพ หลังจากมีเหตุการณ์โควิดได้ยกเลิกการประชุมไป แล้วเพิ่งมีการประชุมผ่านระบบซูมครั้งแรกมีประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ จากนั้นในปีที่ผ่านมารเริ่มประชุมอย่างจริงจังเจอหน้ากันครั้งแรกที่ประเทศกัมพูชา ครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ประชุมเจอหน้ากันหลังจากเหตุการณ์โควิดคลี่คลายโดยจัดประชุมที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย