“พลเอกประยุทธ์” พร้อมแกนนำรวมไทยสร้างชาติขึ้นเวทีปราศรัยที่อำเภอท่าปลา ถิ่น “ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” ขอเสียงสนับสนุนผู้สมัครส.ส.รวมไทยสร้างชาติ อ้อนคนอุตรดิตถ์ขอให้เลือกทั้ง 3 เขตเลือกตั้งเพื่อให้ได้เสียงข้างมากเข้าไปทำงานต่อ ย้ำอีกไม่กี่วันถึงวันเลือกตั้งขอให้ไตร่ตรองให้ดีถ้าเดินผิดจะนำพาประเทศชาติไปในทางที่ผิด
เมื่อวันที่ 23 เมษายน เวลา 12.30 น.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ นายจุติ ไกรฤกษ์ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค พร้อมคณะเดินทางมาที่อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง ประกอบด้วย เขต 1 น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาค เบอร์ 8 เขต 2 น.ส.รสริน ศรัณย์เกตุ เบอร์ 8 และ เขต 3 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เบอร์ 4 โดยมี ประชาชนมารอต้อนรับหลายพันคน
พลเอกประยุทธ์ ปราศรัยว่า ดีใจที่เห็นความเป็นหนึ่งเดียวของคนอุตรดิตถ์ขอให้ชาวอุตรดิตถ์ช่วยกันดูแลประเทศชาติ ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวร่วมใจทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่ต้องฝากไว้คือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งสำคัญต้องช่วยกันรักษาไว้ วันนี้ตนได้เห็นน้ำใจไมตรีคนอุตรดิตถ์จึงขอฝากพรรครวมไทยสร้างชาติไว้ในอ้อมใจอุตรดิตถ์ มี 3 เขตเลือกตั้ง ต้องได้ส.ส.ทั้ง 3 คน ขอให้คนอุตรดิตถ์รวมพลังกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะการดำเนินการในสภาจะต้องได้เสียงข้างมากเพื่อเข้าไปทำงานต่อ หลังจากทำมาแล้ว ถ้าได้เสียงมากก็จะทำงานต่อง่าย
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนทำมาแล้วมีจำนวนมาก เช่น ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ถนนหนทางก็ทำมาแล้ว แต่จะทำต่อคือขยายให้มากขึ้น พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายต่าง ๆ จำนวนมากที่ช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อประชาชน เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งขอให้ไตร่ตรองให้ดีถ้าเดินผิดจะนำพาประเทศชาติไปในทางที่ผิด และถ้าไม่มีชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ จะอยู่กันได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้อยู่ในใจของพวกเราทุกคนอยู่แล้ว
“วันนี้ผมมาอุตรดิตถ์ คนอาจไม่รู้ว่าผมรักและห่วงใยทุกคน หัวใจผมอยู่ที่ทุกคน อยู่ที่สถาบันหลักของชาติ ขอให้ช่วยกันรักษาไว้ ขอขอบคุณทุกคนเราต้องเดินหน้าสู่ยุคใหม่ โลกใหม่ ไม่ใช่ประเทศไทยอย่างเดียวเราต้องมองไปข้างนอกด้วยว่าเป็นอย่างไร วันนี้ที่เรามารวมกันได้ เพราะโควิดหาย เพราะผมเป็นคนบริหารให้สถานการณ์เหล่านี้ปกติโดยเร็วที่สุด ผู้นำประเทศต้องเป็นผู้นำในสถานการณ์วิกฤตได้ด้วย ขณะเดียวกันความมั่นคงก็ต้องมีทหารก็ต้องให้กำลังใจเขา ถ้าไม่มีทหารจะรักษาดินแดนไว้ได้อย่างไร ดังนั้นต้องดูแลเขาด้วย”พลเอกประยุทธ์กล่าว
จากนั้น มีประชาชนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนหลายเรื่องเพื่อให้พลเอกประยุทธ์แก้ไข พร้อมสอบถามเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่ดินทำกินในจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยพลเอกประยุทธ์ย้ำว่าได้ทำแล้วแก้ปัญหาให้แล้วและจะทำต่อถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ต้องมีมาตรการในการแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้อย่างสบายใจและถูกกฎหมายเรามีวิธีการให้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างปราศรัยนายศรัณย์วุฒิ ประกาศหน้าเวทีว่า ประชาชนมารอลุงตู่ 3 ชั่วโมงถ้าไม่รักไม่ศรัทธาไม่มารอลุงตู่มากขนาดนี้ ทำให้พลเอกประยุทธ์สวนกลับทันทีว่า “ถ้าไม่รักก็ไม่มาเหมือนกัน เราต้องมีน้ำใจให้กันและกัน”เรียกเสียงเฮลั่นสนั่นเวที พร้อมกับเรียกร้องให้เลือกผู้สมัครส.ส.ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งคือ เขต 1 น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาค เบอร์ 8 เขต 2 น.ส.รสริน ศรัณย์เกตุ เบอร์ 8 และ เขต 3 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เบอร์ 4 และเบอร์ 22 เลือกตนเองเข้าไปเป็นนายกฯ นอกจากนั้นพลเอกประยุทธ์ยังได้กินทุเรียนพันธุ์ “หลงลับแล”ทุเรียนพันธุ์ดังของอุตรดิตถ์โชว์ด้วย
ต่อมาเวลา 14.30 น พลเอกประยุทธ์ และคณะ เดินทางมายังฌาปนกิจสถานประตูมาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.แพร่ เพื่อเป็นประธานเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพนางวัลลีย์ ศุภศิริ มารดาของ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (แม่เลี้ยงติ๊ก) ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.แพร่ และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำ
สำหรับจังหวัดแพร่ มีผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 คน 3 เขตได้แก่ เขต 1 นางสาวชนกนันท์ ศุภศิริ เบอร์ 2, เขต 2 นายชนาธิป ศุภศิริ เบอร์ 4และ เขต 3 นายประสงค์ ชุ่มเชย เบอร์ 3