เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาตินำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.ดูงาน Bangkok Design Week 2023 เพื่อนำไอเดียปรับใช้กับคนกรุงเทพฯ ลั่นผู้สมัครส.ส.กทม.มีความพร้อมทั้ง 33 เขตแล้ว เผยจะมีส.ส.ก้าวไกลมาร่วมงานด้วยย้ำชัดใครมีอุดมการณ์ตรงกันไม่แบ่งสีนำพาประเทศชาติไปข้างหน้ามาร่วมงานกันได้
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคร่วมงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2566 (Bangkok Design Week 2023) ที่อาคารไปรษณีย์กลาง เขตบางรัก
ทั้งนี้ ในระหว่างการร่วมงาน นายเอกนัฎพร้อมคณะได้พบกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่มาร่วมชมนิทรรศการดังกล่าวด้วย โดย นายสุพัฒนพงษ์ ได้กล่าวทักทายนายเอกนัฏและคณะก่อนที่ทั้งหมดจะเดินชมนิทรรศการต่างๆ ภายในอาคารร่วมกัน
นายเอกนัฎ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการชมนิทรรศการว่า วันนี้ตนนำว่าที่ ผู้สมัครส.ส.กทม.มาดูงานเรื่องของความสร้างสรรค์ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจและอาจจะทำให้เกิดไอเดียในการนำไปทำงานให้กับคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการใช้ Soft Power มาส่งเสริมทั้งการพัฒนาเมืองและส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคด้วย วันนี้ทีมผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคมีความพร้อมเต็มที่ โดยมีผู้สมัครเกิน 33 คน และวันนี้แม้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้ง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากในการกำหนดตัวผู้สมัคร แต่ว่าที่ผู้สมัครของพรรคทราบแล้วว่าตัวเองจะเป็นตัวแทนของพรรคในเขตไหน ต่างลงทำหน้าที่ในพื้นที่กันทุกวัน เพราะทุกคนทำงานเป็นทีม
นายเอกณัฐ กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคไม่ได้เน้นที่การเป็นนักเลือกตั้งอาชีพ แต่เน้นที่มีความรู้ความสามารถ มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณ การเป็นผู้แทนราษฎร หลายคนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและอยากมาทำงานให้กับสังคมและประชาชนตนก็ได้เชิญชวนมา โดยในส่วนของผู้สมัครส.ส.กทม.ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์ในกทม. เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายสามารถ มะลูลีม เป็นต้น ล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์มีอาวุโสมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้สมัครรุ่นใหม่เหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีส.ส.ก้าวไกลจะมาร่วมงานกับพรรคด้วยใช่หรือไม่ นายเอกณัฐ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดกว้างให้ผู้อุดมการณ์และยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ ซึ่งส.ส.จากพรรคก้าวไกลที่ย้ายพรรคมาก็มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ที่เขาเห็นว่าตรงกับสิ่งที่เขาอยากจะทำงานการเมืองแบบนี้ ประกอบกับเขาได้ทราบควาเปลี่ยนแปลงในพรรคเดิม จึงตัดสินใจมาทำงานร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมทำงานเวลานี้ไม่ใช่เวลาแตกแยกแต่เป็นเวลาที่ทุกคนต้องร่วมกันทำงานพัฒนาบ้านเมืองเหมือนกับชื่อของพรรคคือ รวมไทยสร้างชาติรวมทุกคนมาพัฒนาประเทศร่วมกัน
เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายสมหวัง อัสราษี และนายยศวริศ ชูกล่อม อดีตนปช.เข้ามาร่วมงานกับพรรคว่า อย่าแบ่งแยกว่าเป็นบุคคลจากฝั่งประชาธิปไตยมาเป็นวาทกรรมเพื่อแบ่งแยก เพราะเชื่อว่าทุกคน ที่เข้ามาทำงานไม่มีใครต้องการจะมาทำการเมืองและอยู่ตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย แต่ถ้าพูดถึงกลุ่มมวลชนที่มีหลายกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนปช.หรือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชื่อว่าวันนี้ต่างก็อยากจะสละทิ้งความแตกแยกต่างๆ และต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ภายใต้สถาบันหลักคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามอดีตจะมาจากไหน แต่หากมีความตั้งใจและอุดมการณ์ในการเดินไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาประเทศด้วยกัน ไม่แบ่งสีเพราะตอนนี้ทุกคนมี 3 สีอยู่ในใจ คือแดงขาวน้ำเงินถ้าหากคิดตรงกันแบบนี้ ตนก็อยากเชิญชวนมาร่วมกันทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติได้