“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประธานเปิดสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.พัทลุง ยิ่งใหญ่ ท่ามกลางสมาชิกพรรคร่วมงานมากกว่า 3,000 คน ระบุถ้าให้โอกาสรวมไทยสร้างชาติ ทุกคนจะได้พรรคที่ต่อสู้เพื่อประชนแบบไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ขณะ “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร”ในฐานะ “บ้านใหญ่พัทลุง”และรองหัวหน้าพรรคฯ มั่นใจกวาดเก้าอี้ได้ครบ ระบุคัดเข้มคนมีคุณภาพ ประสบการณ์ทำงานใกล้ชิดชาวพัทลุงลงสนามแน่พร้อมเปิดตัวลูกชาย “เดี่ยว” – “นิติศักดิ์ ธรรมเพชร” ลงเขต 2 หวังทำงานสร้างความเท่าเทียม เป็นธรรมให้ประชาชนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นตามนโยบายพรรค
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อม นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เดินทางไปร่วมกันเปิดศูนย์ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง โดยมีนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรคพร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุงในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ,สมาชิกพรรค และ ประชาชนชาว จ.พัทลุงให้การต้อนรับ โดยเมื่อเดินทางถึงนายพีระพันธุ์ ได้พูดคุยทักทายกับนายวิสุทธิ์ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพัทลุง ก่อนทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการท่ามกลางความยินดีของสมาชิกพรรค และประชาชนชาวพัทลุงที่เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อม นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯ นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรคฯ เดินทางไปยัง หอประชุมเฉลิมพระเกียรติมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อร่วมกันเปิดสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.พัทลุง พร้อมเปิดตัวนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร นักการเมืองหนุ่มไฟแรง ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 ทายาทนักการเมืองตระกูลธรรมเพชร ท่ามกลางสมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนที่เดินทางมาให้กำลังใจคึกคักกว่า 3,000 คน
นายพีระพันธุ์ ได้ขึ้นกล่าวกับสมาชิกพรรคว่า ตนรู้สึกขอบคุณสมาชิกทุกคนที่วันนี้มากันจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 3,000 คนซึ่งมากกว่ากฎหมายกำหนดไว้ว่าในการตั้งสาขาพรรคให้มีสมาชิกอย่างน้อยแค่ 500 คนเท่านั้น ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจมาก แม้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคใหม่ แต่คนทำงานเป็นคนเก่าประสบการณ์สูง ตนทำพรรคนี้ไม่ได้ต้องการตำแหน่งแค่อยากมาทำงาน ที่ผ่านมารอมา 30 ปีอยากให้มีพรรคการเมืองแบบนี้ แต่ในความรู้สึกคิดว่าไม่เคยมี ตอนที่ตนเดินออกมาจากพรรคเดิมเกือบรู้สึกว่าจะเลิกแล้ว แต่ต่อมาได้มาทำงานเป็นที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งไม่เคยได้รู้จักท่านมาก่อนเลยเห็นแต่ในข่าวก็คิดว่าจะทำงานด้วยได้หรือเปล่า แต่ปรากฎว่าตั้งแต่ทำงานการเมืองมากลับรู้สึกว่าทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สบายใจที่สุดเพราะไม่เคยพูดคุยกันเรื่องตำแหน่ง หรือเรื่องการเมืองเลย และด้วยเหตุนี้ทำให้รู้สึกว่า พรรคที่ตนเคยฝันไว้น่าจะเป็นไปได้ เพราะเชื่อว่าถ้าคนดีอยู่ที่ไหนทุกสิ่งก็จะดี จึงพยายามคิดว่าทำอย่างไรจะเอาคนดีมาร่วมกันทำงานให้ได้ และพล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยพูดประโยคม๊อตโต้ว่า “รวมไทยสร้างชาติ” จึงคิดว่าอยากจะลองสักตั้งกับการทำพรรค ดีกว่าแค่คิดอย่างเดียวจึงตัดสินใจออกมาทำพรรคนี้
“เป้าหมายของการทำงานของเรา คือการดำรงสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งสี มีหัวใจเดียวกันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศเท่านั้น คำว่าสร้างชาติไม่ได้เป็นการสร้างชาติใหม่ ตามที่หลายคนเอาไปพูด แต่ชาติไทยมีความเป็นไทยหนึ่งเดียวมาเป็นพันปี เป็นวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลกเราภูมิใจความเป็นไทย คำว่ารวมไทยสร้างชาติ จึงหมายความว่าเราจะสร้างสังคมที่เป็นธรรม สังคมที่เสมอภาคเท่าเทียม เป็นสังคมที่ประชาชนเป็นใหญ่จริงๆ ไม่ได้เอากฎหมายมารังแกประชาชน และเป็นสังคมที่ประชาชนพร้อมที่จะสร้างชาติบ้านเมืองและอยู่ด้วยกันบนพื้นแผ่นดินนี้อย่างมีความสุข นี่คือความหมายของรวมไทยสร้างชาติ” นายพีระพันธุ์กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ตนได้คุยกับหลายคนว่าจะทำพรรคที่เป็นนักสู้เพื่อประชาชน เป็นที่พึ่งพาให้กับประชาชน เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าช่วยได้แค่ไหนไม่เป็นไรแต่ขอให้มีคนรับฟังปัญหาและหาแนวทางช่วยเขาเท่านั้น และพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคที่สู้ทุกปัญหา และพึ่งพาได้ทุกเรื่องซึ่งเป็นสโลแกนของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ต้องการตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นคนที่อยู่ที่พรรคนี้ได้จิตใจจะต้องไม่ใช่นักการเมือง แต่ต้องมีจิตใจที่เป็นนักสู้ที่ไม่ได้สู้เพื่อตัวเองแต่สู้เพื่อประชาชนคนไทยทั้งชาติ และจะไม่ทะเลาะกับพรรคการเมืองไหน แต่จะทะเลาะกับปัญหาของประชาชนเท่านั้น โดยนายพีระพันธุ์ยังได้กล่าวถึงที่มาของพรรค รวมถึงความเป็นมาของโลโก้พรรคที่ตนเป็นคนออกแบบเองด้วย โดยระบุว่า
“โลโก้นี้ผมคิดขึ้นมาด้วยตัวเอง แค่นี้แต่ได้ความหมายเยอะเลย ประเทศไทยบ้านเราต้องมาช่วยกันสามเหลี่ยมแรกคือหลังคาบ้าน นี่แหละคือบ้านของเรา วัฒนธรรมที่ดีของไทยคือการไหว้ สัญลักษณ์ของการเจริญรุ่งเรืองคือพุ่งขึ้นไปเป็นยอด ส่วนที่ฐานขยายออกไปซ้ายขวาคือการรวมกันของคนไทย เลือด น้ำเงิน ขาว แดง ไหลรวมกันมาเพื่อร่วมมือกันสร้างบ้านให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทยไว้ นี่คือความหมายของรวมไทยสร้างชาติ ผมจึงขอให้เพื่อสมาชิกทุกท่านภูมิใจว่าท่านไม่ได้มาเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองธรรมดา แต่ท่านเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองรูปแบบนี้ในประเทศไทยมาก่อน เราจะร่วมกันสร้างพรรคนี้ให้เป็นพรรครวมไทยสร้างชาติที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งชาติต่อไป” นายพีระพันธุ์กล่าว
ด้านนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เริ่มสร้างพรรคนี้ขึ้นมาความตั้งใจ และความมุ่งมั่นไม่เคยลดน้อยลง และยังสู้ไม่ถอย และมุ่งทำพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติสนับสนุนคนดี คนมีความตั้งใจ และได้คัดสรรผู้สมัครที่ดีที่สุดที่ไม่ใช่ในสายตาของหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค แต่คัดสรรตัวผู้สมัครที่ดีที่สุดในสายตาของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ ไม่มีคำว่าเลือกที่รักมักที่ชัง แต่คัดคนที่ถูกใจคน ซึ่งเป็นวิธีการการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงต้องการแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนทุกคนให้มาช่วยกันทำพรรคใหม่ และการเมืองแบบใหม่
“ไหน ๆ เราก็มีโอกาสได้มีส่วนร่วมกับการสร้างพรรคใหม่ ก็มารวมกัน การเมืองแบบใหม่ การเมืองที่เข้าใจเข้าถึงปัญหาของประชาชน การเมืองที่ไม่สู้กันเอง แต่สู้ให้กับปัญหาของประชาชน อยากให้เป็นการเมืองที่ทิ้งอดีตความขัดแย้งบาดหมางส่วนตัว แต่ต้องร่วมกันด้วยความสามัคคีมาทำงานด้วยกัน เพื่อสร้างชาติบ้านเมือง เพื่ออนาคตของพวกเราทุกคน ถึงเวลาแล้วครับ ที่เราจะมาร่วมกันทำงาน ร่วมกันสร้างพรรคการเมืองร่วมกันสร้างการเมือง ทิ้งอดีตที่ขมขื่นในความขัดแย้งต่างๆ เดินหน้าสู่ความสดใสเดินหน้าสู่อนาคตของประเทศไทยเดินหน้าไปด้วยกันด้วยความรักความสามัคคีร่วมด้วยช่วยกันรวมไทยสร้างชาติ” นายเอกนัฎกล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนและครอบครัวเป็นครอบครัวของรวมไทยสร้างชาติ และที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคฯ เพราะศรัทธาในแนวคิดการทำงานของพรรคข้อแรกคือ การเทิดทูนสถาบันซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และในการพูดคุยกับคณะกรรมการพรรคตั้งแต่เริ่มต้น รู้สึกเห็นด้วยกับแนวทางการทำงานของนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคที่ตั้งใจจะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนด้วยการใช้แก้กฎหมายที่ไม่ชัดเจนต่างๆ และมั่นใจว่าอนาคตจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของจังหวัดพัทลุงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาที่ทำกินของพี่น้องประชาชน เรื่องปากท้อง เรื่องพืชผลทางการเกษตร ที่จะมีการศึกษารายละเอียดทั้งหมดเพื่อนำมากำหนดนโยบายของแต่ละพื้นที่ต่อไป สำหรับตัวผู้สมัครจะมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งและมั่นใจว่าหากได้รับแรงสนับสนุนจากชาวพัทลุงก็จะทำให้สามารถได้เก้าอี้ครบอย่างแน่นอน
“และนี่คือเหตุผลที่ผมย้ายจากพรรคเดิมมาอยู่บ้านหลังใหม่ เพราะมั่นใจในตัวของท่าน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นนักการเมืองฝีมือดีระดับประเทศ รวมไปถึงนักการเมืองคุณภาพของพรรคทุกคน และตัวแทนผู้สมัคร จ.พัทลุง ที่พร้อมจะทำงานให้กับชาวพัทลุง ก็จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมและเท่าเทียมของประชาชนทุกพื้นที่ทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และขอฝากผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคนด้วย” นายวิสุทธิ์กล่าว
ด้านนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร หรือ “เดี่ยว” กล่าวว่า ตนเป็นลูกชายนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร และทายาทนักการเมืองตระกูลธรรมเพชรที่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะทายาทตระกูลการเมืองของ จ.พัทลุง ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นบิดาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว และเมื่อโตมาได้ร่วมทำงานกับกับบิดา คร่ำหวอดอยู่กับการทำงานด้านการเมืองในพื้นที่มานาน จนเข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของชาวพัทลุงได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาก็ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพราะต้องการรู้ข้อเท็จจริงปัญหาต่างๆ ของประชาชนในพื้นที่ด้วยตัวเอง และเห็นว่าแนวทางการใช้กฎหมายแก้ปัญหาให้กับประชาชนของนายพีระพันธุ์ และเป็นนโยบายพรรคฯ เป็นการแก้ไขที่ตรงจุดจึงมีความมุ่งมั่นที่จะมาทำงานให้กับพี่น้องชาวพัทลุงและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นตัวแทนชาวพัทลุงเขต 2 เข้าไปทำงานเพื่อส่วนรวมต่อไป
#พรรครวมไทยสร้างชาติ #สู้ให้ทุกปัญหา #พึ่งพาได้ทุกเรื่อง #สร้างสังคมเท่าเทียม #ทีมพีระพันธุ์ #เลขาขิง
[vc_video link=”https://www.youtube.com/watch?v=rt_rvCZrbpw” align=”center”]