Skip to content
Home » ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ชูนักการเมืองท้องถิ่น เข้าใจ-เข้าถึงปัญหารากหญ้า

‘รวมไทยสร้างชาติ’ ชูนักการเมืองท้องถิ่น เข้าใจ-เข้าถึงปัญหารากหญ้า

“พีระพันธุ์” เปิดสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สุราษฎร์ธานี หวังกวาดเก้าอี้ได้ตามเป้า ระบุได้นักการเมืองท้องถิ่นสนับสนุน จะทำให้เข้าใจปัญหาประชาชนได้อย่างแท้จริง

พีระพันธุ์  ลงพื้นที่ภาคใต้เปิดสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สุราษฎร์ธานี หวังได้เก้าอี้ตามเป้า ชี้ต้องการเสนอการเมืองรูปแบบใหม่ให้กับประชาชน ระบุได้นักการเมืองท้องถิ่นทั้ง นายก อบจ. หรือ สจ.สนับสนุน เพราะเชื่อว่ารู้เรื่องปัญหาของประชาชนในพื้นที่ดีจะได้เอาปัญหาไปช่วยกันแก้ไขในภาพของการเมืองใหญ่ ยอมรับตั้งเป้าได้เก้าอี้มากพอสมควรเหมือนกับทุกพรรค หลังนายกฯพักงานยังไม่ได้พบท่านเลย

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่โรงแรมแก้วสมุย  อ.เมือง สุราษฎร์ธานี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า การเดินทางมาเปิดสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติในวันนี้ ไม่ได้คิดว่าจะมาเจาะไข่แดงพรรคใด แต่คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องของประชาชนที่อยากจะนำเสนอการเมืองรูปแบบใหม่ให้กับประชาชน ซึ่งก็ไม่ได้ทำเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้นแต่ทำงานในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ในสาขาจังหวัดอื่นจะทยอยเปิดตามความพร้อมตามแนวทางของพรรคคือ “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง”

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะใน จ.สุราษฎร์ธานี พรรคได้ผู้สนับสนุนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่นำโดยนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานีและสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) สุราษฎร์ธานี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มั่นใจว่านโยบายพรรคจะได้รับการสื่อสารไปยังประชาชนได้มากขึ้น ซึ่งการที่ได้นายก อบจ.มาร่วมงานด้วย ประเด็นสำคัญคือตั้งใจจะทำให้เป็นพรรคการเมืองที่มาทำงานต่อสู้เพื่อประชาชนจริงๆ ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้ ไม่ได้อยู่ที่การดึงผู้สมัครท้องถิ่นเดิม หรือสมาชิกสภาจังหวัดเข้ามา แต่เห็นว่านักการเมืองท้องถิ่นเป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดและรู้ปัญหาของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีที่จะสามารถทำให้สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการเมืองส่วนใหญ่มักพูดกันแต่เรื่องภาพใหญ่ๆ โดยลืมภาพเล็กลงมาคือชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของประชาชนเป็นอย่างไร ไม่เคยมีใครเข้ามาช่วยเหลือดูแลปัญหาของประชาชน เศรษฐกิจดีไม่ดี สิ่งที่ประชาชนต้องประสบอยู่ตลอดเวลา คือการไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมกันในสังคม การทำมาหากินที่ติดขัดไปทุกๆ เรื่อง สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีใครเป็นปากเป็นเสียงเพื่อประชาชนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งนอกจากนโยบายรวมใหญ่ของประเทศแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติยังมีนโยบายที่เกี่ยวกับประชาชนแบบนี้ และคิดว่าที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองไหนเสนอในรูปแบบนี้  ทำให้ตนคิดว่าการที่พรรคได้นักการเมืองท้องถิ่น ที่นำโดยนายก อบจ.จะทำให้เข้าใจปัญหาท้องถิ่นได้มากขึ้น ขณะเดียวกันทุกคนล้วนอยู่ใกล้ชิดกับประชาชน จึงสามารถเอาปัญหาของประชาชนที่เป็นปัญหารากหญ้าจริงๆ มาให้ทางการเมืองใหญ่เข้าไปช่วยเหลือคนเหล่านี้ในภาพรวมได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งเป้าเก้าอี้ไว้มากน้อยแค่ไหน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีเป้าหมายในทุกพื้นที่ซึ่งคิดว่าทุกพรรคก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนได้รับเลือกตั้งมามากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่อง ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติหวังว่าจะได้เก้าอี้มากพอสมควร ต้องการได้ที่นั่งใน จ.สุราษฎร์ธานีทั้ง 6 เขตเดิม และ 1 เขตใหม่ นอกจากนี้จะพยายามส่งให้ครบทุกเขตทั่วประเทศ

“ผมเรียนว่าในทางการเมืองถ้าพูดว่าในเรื่องการตั้งเป้า ทุกพรรคก็ตั้งเป้าไว้เยอะอยู่แล้ว ไม่มีพรรคไหนตั้งเป้าน้อยๆ เพียงแต่ว่าจะสามารถจะทำให้ประชาชนสนับสนุนได้ตามเป้าหรือไม่อันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถทั้งของพรรคเองหรือตัวผู้สมัครในการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าท้าย ที่เราเองพรรครวมไทยสร้างชาติก็ต้องพยายามทำความเข้าใจกับประชาชน เหมือนที่ผมบอกว่าการที่เราได้นักการเมืองท้องถิ่น หลักสำคัญคือใกล้ชิดประชาชน อย่าง จ.สุราษฎร์ธานี เราได้ท่านนายก อบจ.กำนันศักดิ์ มาเป็นหัวแรงใหญ่มันก็ทำให้เราสามารถสื่อสารกับประชาชนได้มากขึ้น ขณะเดียวกันท่านก็สามารถนำปัญหาของประชาชนมาสู่ระดับประเทศได้มากขึ้น” นายพีระพันธุ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ตอบว่า พูดคุย ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องงาน และไม่ได้พบท่านเลย ตั้งแต่นายกฯ พักงานไปก็ไม่ได้รายงานอะไรกับท่าน ส่วน พลเอก ประยุทธ์ จะมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ ตอบว่า  ตนตอบแทนท่านไม่ได้แต่ที่ผ่านมาเห็นท่านสัมภาษณ์ว่าอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ก็คงต้องถามท่านก่อน