“พีระพันธุ์” ชี้โพสต์เฟซบุ๊กระบุนักเล่นเกมการเมือง ไม่ได้หมายถึง “บิ๊กป้อม” ไม่หวั่น “ไพบูลย์” ขู่ฟ้อง ลั่นฟ้องมาเจอฟ้องกลับแน่
พีระพันธุ์ ชี้ “นักเล่นเกมการเมือง” ไม่ได้ระบุเป็น “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร” แต่จากประสบการณ์เชื่อว่าต้องมีคนสั่ง ส่วนจะเป็นใครต้องไปสืบหากันเอง ซัด ส.ส. ทำสภาล่มซ้ำซากทำเสียภาพลักษณ์สภาฯส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่หวั่นไพบูลย์ ขู่ฟ้องฯ เพราะไม่ได้บอกว่าเป็นบุคคลใด หรือพรรคไหน แต่เป็นพฤติการณ์ และได้ตอบสื่อไปแล้วชัดเจนว่าไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร เพราะ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ยืนยันตลอดมาว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้สั่งการแล้วจะหมายถึง พล.อ. ประวิตรได้อย่างไร
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. จากกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีเอาผิดนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จากการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 14 ส.ค. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่อาจไม่สามารถลงมติได้เนื่องจาก มีจำนวน ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุมจนทำให้สภาล่ม โดยนายไพบูลย์ระบุว่า ข้อความบางตอนในในการโพสต์ดังกล่าวเป็นไปในลักษณะที่เป็นการใส่ความกล่าวหาว่า ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และพรรคพลังประชารัฐ มีการกระทำผิดกฎหมาย พร้อมระบุว่าเป็นความเท็จทั้งสิ้น ทำให้ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคพลังประชารัฐ เสียหาย
ต่อมานายพีระพันธุ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนต่อประเด็นนี้ว่า ตนไม่ได้หมายถึงใครและพรรคใดเฉพาะเจาะจง แต่หมายถึงพฤติการณ์ ซึ่งจากประสบการณ์ทางการเมือง การที่ส.ส.จำนวนมากมีพฤติกรรมไปในแนวทางเดียวกันต้องมีการดำเนินการให้เป็นไปตามนั้นเสมอ ส่วนใครจะเป็นคนสั่ง ตนไม่ทราบ และตนก็ไม่หมายถึง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เพราะ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์เองว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เคยไปสั่งการใดๆ แล้วจะหมายถึง พล.อ. ประวิตรได้อย่างไร แต่ตนหมายถึงใครก็ได้ที่มีพฤติการณ์เช่นนี้ ที่โพสต์ไปนั้นมาจากประสบการณ์การทำงานในสภา ที่การที่ ส.ส.จำนวนมากทำอะไรไปในทิศทางเดียวกันตามปกติจะต้องมีการกำหนดแนวทางอยู่แล้ว แต่จะสั่งการโดยใครตนไม่ทราบ ต้องไปสืบ ไปเช็คกันเองว่าเป็นใคร ส่วนคนสั่งจะคนระดับบิ๊กหรือไม่นั้น ก็ไม่จำเป็น แต่การไปทำให้สังคมวุ่นวาย ทำให้สภาวุ่นวายแบบนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์สภาล่มซ้ำซากดังกล่าว กระทบต่อภาพพจน์ของรัฐสภา และเป็นประวัติการทำงานของสมาชิกรัฐสภา ที่ประชาชนจะจำไปตลอดและอาจมีผลในการเลือกตั้ง ในวันนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดเอาผิด เอาโทษ ฉะนั้นคงไม่มีความผิด ไม่มีโทษ แต่เรื่องความรับผิดชอบเป็นเรื่องวุฒิภาวะ ซึ่งประชาชนมองดูอยู่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ภาพพจน์สภาเสียหาย และการที่จะฟื้นศรัทธาขึ้นมาก็ขึ้นอยู่ที่สมาชิกรัฐสภาเองว่าจะทำอย่างไร
“ถ้าหากฟ้องมาผมก็จะฟ้องกลับอย่างแน่นอน” นายพีระพันธุ์กล่าว
