6 ยุทธศาสตร์ เร่งทำใน 1 ปี!
- ปราบภัยคุกคามความมั่นคง
ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ และปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาภัยคุกคามในสังคมไทย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งลดผลกระทบจากปัญหายาเสพติดในสังคมไทย เพื่อให้สังคม และครัวเรือนปลอดภัยจากยาเสพติด รวมทั้งปัญหาการใช้กฎหมายที่ส่งผลให้พี่น้องประชาชนขาดโอกาสในการทำอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเอง ดังนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติจึงกำหนดนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบด้วย
1.1 การแก้ปัญหายาเสพติดตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยจัดการยาเสพติดตั้งแต่ต้นตอ คือ กลุ่มผู้ผลิต ผู้ลักลอบนำเข้า และผู้ค้า โดยเร่งรัดการสืบสวน สอบสวน ขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเร่งด่วน และใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ประสานกับหน่วยงานในต่างประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อทำลายแหล่งผลิต ติดตามจับกุมผู้ค้า วางระบบศูนย์ข้อมูลการค้ายาเสพติดและการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนแบบบูรณาการทั้งหน่วยกำลัง การสั่งการ และการปฏิบัติงาน แบบ Single Command และการจัดการปลายทาง คือ การฟื้นฟูผู้เสพ รณรงค์ให้สังคมช่วยกันสอดส่องดูแลปัญหายาเสพติดในชุมชน โรงเรียน และครอบครัว และใช้การสร้างอาชีพในชุมชนแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ โดยไม่ต้องหันไปเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย
1.2 การแก้ปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ โดยพัฒนาระบบงานดิจิทัลในภาครัฐต่อเนื่องจากที่หน่วยงานภาครัฐต่างๆได้ดำเนินการมาแล้วให้มีความสมบูรณ์ มุ่งเน้นการใช้ระบบ AI และ Blockchain มาใช้ในการกำกับและติดตามกระบวนการทำงานในขั้นตอนต่างๆ โดยเฉพาะกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การอนุมัติที่เป็นภารกิจของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้ประชาชน และภาคธุรกิจสามารถจัดส่งเอกสารผ่านระบบดิจิทัลให้แก่หน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องมาพบกับเจ้าหน้าที่รัฐ กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาที่ชัดเจน เพื่อขจัดโอกาสในการเรียกรับผลประโยชน์ รวมทั้งประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการทดลองใช้งานระบบเงินบาทดิจิทัลในงานก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐ เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางการเงิน และขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบในโครงการก่อสร้างต่างๆของภาครัฐ และแก้ไขระเบียบกฎหมายลดอำนาจการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้น้อยลงเพื่อปิดช่องทางการทุจริตประพฤติมิชอบและการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างจริงจัง และปราบปรามเอาผิดอย่างจริงจังกับการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อิทธิพล และฐานะทางสังคมเพื่ออยู่เหนือกฎหมาย พร้อมออกกฎหมายลงโทษทั้งผู้กระทำผิดให้มีโทษหนักขึ้นและกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือต้องออกจากราชการทันที นอกจากนั้น จะวางระบบตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยเฉพาะการใช้ดุลยพินิจในการสั่งฟ้องคดี